ชื่อ : เร่วมี หรือ เร่ว
ชื่อสามัญ : Bustard cardamom, Tavoy cardamom
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amomum villosum var. xanthioides (Wall. ex Baker) T.L.Wu & S.J.Chen
ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE
ชื่อท้องถิ่น : หมากแหน่ง (สระบุรี), หน่อเนง (ชัยภูมิ), มะอี้ หมากอี้ มะหมากอี้ (เชียงใหม่), หมากเนิง (ภาคอีสาน), เร่วใหญ่ (ทั่วไป)
ลักษณะ
ต้นเร่วจัดเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าหรือลำต้นอยู่ใต้ดิน เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด โดยเฉพาะในดินร่วนซุยในที่ร่มรำไร นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เหง้าหรือหน่อมากกว่าการใช้เมล็ด
ในประเทศไทยสามารถพบได้ทางภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง
ใบเร่วเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ลักษณะของใบเรียวยาว เป็นรูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมใบหอก มีความยาวประมาณ 12-20 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร
ปลายใบแหลมและห้อยโค้งลง ก้านใบเป็นแผ่นมีขนาดสั้น
ดอกเร่วดอกมีสีขาว ออกเป็นช่อจากยอดที่แทงขึ้นมาจากเหง้า ดอกจะรวมอยู่ในก้านเดียวกันเป็นช่อยาว ๆ คล้ายกับดอกข่า กลีบดอกเป็นสีชมพูอ่อนแล้วจะเปลี่ยนสีน้ำตาลเทา โคนกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นท่อ
ปลายแยกเป็นกลีบ ก้านช่อดอกสั้น
ผลเร่วน้อยผลค่อนข้างกลม ลักษณะเป็น 3 พู มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-2 เซนติเมตร มีขน ผลแก่สีน้ำตาลแดง ภายในมีเมล็ดจำนวนมากจับกันเป็นกลุ่มก้อนกลม ๆ
หรือกลมรี มี 3 พู โดยแต่ละพูจะมีเมล็ดประมาณ 3-15 เมล็ด อัดเรียงกันแน่น 3-4 แถว เมล็ดมีรูปร่างไม่แน่นอน มีหลายเหลี่ยมและมีเป็นสันนูน ขนาดกว้างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2.5-4 เซนติเมตร
เมล็ดมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลดำ ผิวด้านนอกเรียบมีเยื่อบางหุ้ม ปลายแหลมของเมล็ดมีรูเห็นได้เด่นชัด เมล็ดแข็ง เนื้อในเมล็ดมีสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอมฉุน รสเผ็ดซ่า และมีรสขมเล็กน้อย
ผลเร่วใหญ่ผลมีลักษณะเรียวยาวหรือขอบขนานแกมสามเหลี่ยม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ผลแห้งแตกได้ มีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุมอยู่ ผลมีรสมันเผื่อนติดเปรี้ยว
ภายในผลมีเมล็ดเป็นกลุ่ม 10-20 เมล็ด ลักษณะเหมือนเร่วน้อย เมล็ดมีสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นหอม มีรสร้อนเผ็ดปร่า
ประโยชน์
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ด้วยการใช้เมล็ดเร่วผสมกับหัวแห้วหมู ขิงแห้ง และชะเอมเทศ นำมาปรุงเป็นยารับประทาน (เมล็ด)
- ช่วยแก้ธาตุพิการ (ผลเร่วใหญ่)
- ช่วยลดไขมันในเลือด (เมล็ดเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้โลหิตขึ้นเบื้องสูง (ผลเร่วใหญ่)
- ผลมีรสเผ็ดปร่า ใช้เป็นยาแก้ไข้ (ผลเร่วน้อย)
- ช่วยแก้ไข้สันนิบาต (ผลเร่วน้อย, ผลเร่วใหญ่, เมล็ดเร่วน้อย)
- ช่วยแก้ไข้เซื่องซึม (ราก)
- ผลเร่วใหญ่มีรสมันเผื่อนติดเปรี้ยว ช่วยแก้ไข้เพื่อดีและเสมหะได้ (ผลเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้อาการหืด แก้อาการไอ (ราก)
- ช่วยแก้หืดไอ (ผลเร่วน้อย, ผลเร่วใหญ่, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ (ต้น, เมล็ด, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- ผลช่วยแก้เสมหะในลำคอ เมล็ดช่วยกัดเสมหะ (ผลเร่วน้อย, เมล็ดเร่วน้อย)
- ช่วยแก้เสมหะอันบังเกิดแต่ดี (ผลเร่วใหญ่)
- ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ (ผลเร่วใหญ่)
- ผลหรือเมล็ดจากผลที่แก่จัดใช้เป็นยาแก้ท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการใช้เมล็ดจากผลแก่นำมาบดให้เป็นผง แล้วใช้รับประทานหลังอาหารครั้งละ 1-3 กรัม (ประมาณ 3-9 ผล) วันละ 3 ครั้ง (ผล, ผลเร่วใหญ่, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้อาการปวดท้อง ด้วยการใช้เมล็ดเร่วผสมกับหัวแห้วหมู ขิงแห้ง และชะเอมเทศ นำมาปรุงเป็นยารับประทาน (ผลเร่วใหญ่, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- เมล็ดเร่วน้อยช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ด้วยการใช้เมล็ดนำมาบดเป็นผงครั้งละประมาณ 7-8 กรัม ชงกับน้ำขิงต้มดื่มกินบ่อย ๆ (เมล็ดเร่วน้อย)
- ช่วยขับผายลม ช่วยทำให้เรอ (ผลเร่วใหญ่)
- ช่วยขับลมในลำไส้ (ใบ, เมล็ด, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้ปัสสาวะพิการ (ใบ)
- ผลเร่วใช้เป็นยารักษาโรคริดสีดวงทวารได้ (ผลเร่วน้อย, ผลเร่วใหญ่, เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- เร่วช่วยแก้ระดูขาวของสตรี (ผลเร่วน้อย, ผลเร่วใหญ่)
- ช่วยแก้อาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ ด้วยการใช้ผลเร่วแห้งหนักประมาณ 7-8 กรัม ย่างไฟจนแห้งกรอบแล้วนำมาบดเป็นผง ใช้ชงกับน้ำดื่มบ่อย ๆ (ผล)
- ช่วยรักษาพิษอันบังเกิดในกองมุตกิดและมุตฆาต (ผลเร่วน้อย)
- เมล็ดเร่วใหญ่ช่วยลดความเป็นพิษของสารพิษต่อตับ (เมล็ดเร่วใหญ่)
- ดอกเร่วช่วยแก้พิษอันเกิดเป็นเม็ดผื่นคันขึ้นตามร่างกาย (ดอก)
- ช่วยแก้อาการเป็นพิษ ด้วยการใช้เมล็ดนำมาบดเป็นผง ชงกับน้ำอุ่นแล้วนำมาดื่ม (เมล็ด)
- ช่วยขับน้ำนมหลังการคลอดบุตรของสตรี (เมล็ดเร่วน้อย, เมล็ดเร่วใหญ่)
- ช่วยรักษาอาการขัดในทรวง (ผลเร่วใหญ่)
- จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่าเร่วใหญ่มีฤทธิ์ขับลม ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็กส่วนปลาย และช่วยลดความดันโลหิต
- เร่วจัดอยู่ในตำรับยา “พิกัดทศกุลาผล” ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกัน 10 ชนิด ประกอบไปด้วย เร่วน้อย เร่วใหญ่ ชะเอมไทย ชะเอมเทศ อบเชยไทย อบเชยเทศ ผักชีล้อม ผักชีลาว ลำพันขาว และลำพันแดง เป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้เพื่อดีและเสมหะ ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงปอด บำรุงดวงจิตให้แช่มชื่น ช่วยแก้ไข้ แก้รัตตะปิดตะโรค ช่วยขับลมในลำไส้ และแก้ลมอัมพฤกษ์อัมพาต
แหล่งอ้างอิง
medthai.com/เร่ว/