คำอธิบาย
โครงการศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเมล็ดคามีเลียและน้ำมันพืชอื่น มูลนิธิชัยพัฒนา พบว่า น้ำมันเมล็ดคามีเลีย Camellia Oleifera Seed Oil หรือน้ำมันเมล็ดชา เป็นน้ำมันที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก จนได้รับฉายานามว่า “น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก“
คุณสมบัติของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย Camellia Oleifera Seed Oil หรือน้ำมันเมล็ดชา
- มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง
- น้ำมันเมล็ดชาจะมีโอเมก้าครบ 3 ชนิด
- มีกรดโอเลอิก (โอเมก้า 9) สูงถึง 81-87% ดีต่อหัวใจ
- มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว (โอเมก้า 6) สูง 13-28% บำรุงผิว มี Antioxidant
- มีกรดแอลฟาไลโนเลนิก (โอเมก้า 3) 1-3% ดีต่อสมอง
- มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยลดระดับ LDL (คอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี) และเพิ่ม HDL (คอเรสเตอรอลชนิดดี)
จุดเด่น : เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมากและมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง กรดโอเลอิค (โอเมก้า 9) สูงถึง 81-87% (โอเมก้า 6) สูง 13- 28% นอกจากนี้ยังมีกรดแอลฟาไลโนเลนิก (โอเมก้า 3) 1-3% กรดไขมันไม่อิ่มตัวเหล่านี้ช่วยลดระดับ LDL (คอเรสเตอรอลชนิดไม่่ดี) และเพิ่ม HDL (คอเรสเตอรอลชนิดดี)
น้ำมันเมล็ดคามีเลีย Camellia Oleifera Seed Oil ของภัทรพัฒน์เป็นน้ำมันที่ทนความร้อนได้สูงถึง 252 องศาเซลเซียส จึงทำให้สามารถปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง และยังสามารถใช้เป็นซอสหมักเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสให้มูลนิธิชัยพัฒนาติดต่อกับสถาบันพฤกษศาสตร์มณฑลยูนนาน เพื่อขอเมล็ดพันธุ์ และต้นอ่อนชาน้ำมันมาทดลองปลูกในประเทศไทย จนกลายมาเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนา ที่ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาน้ำมันจากเมล็ดชาให้กลายเป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพของคนไทย และยังผลิตเครื่องสำอางคุณภาพดี ได้อีกหลากหลายรูปแบบ
วิธีการใช้งาน : ใช้เพื่อบริโภคและประกอบอาหาร
วิธีเก็บรักษา : ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดและความร้อน หรือหลังจากเปิดขวดแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น
ขนาดบรรจุ 250 มล.
ทำความรู้จักกับน้ำมันเมล็ดคามีเลีย กับประโยชน์ต่อสุขภาพที่ควรรู้ (คลิกเลย)
สามารถสอบถามรายละเอียดได้ทาง
📞 โทร.: 053734140 ต่อ 106
📲 Line official : @camelliaoilcenter